พอเริ่มตั้งครรภ์บางท่านอาจอาการปวดตรงนั้นปวดตรงนี้ก็เริ่มมารุมเร้าร่างกายว่าที่คุณแม่คนใหม่เรียกว่าปวดได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าและเพื่อให้แม่ท้องเตรียมพร้อมรับมือได้อย่างสบายแม่ท้องจะปวดที่ใดกันบ้างลองไปดูกันค่ะ
หลังคลอดคุณสามารถมีน้ำหนักเกินได้มาก ด้วยยาลดน้ำหนัก คุณสามารถตีกลับได้อย่างรวดเร็ว
1. ปวดศีรษะ
สาเหตุของอาการปวดศีรษะนั้นมาจากหลายปัจจัยแต่หลักๆแล้วคือปริมาณเลือดในร่างกายที่เพิ่มขึ้นเลือดส่วนหนึ่งถูกส่งไปเลี้ยงเจ้าตัวน้อยและเส้นเลือดมีอาการตึงตัวจนทำให้ปวดเกร็งแล้วหากพักผ่อนไม่เพียงพอดื่มน้ำน้อยอากาศร้อนก็จะยิ่งปวดหัวขึ้นมาได้
อาการคือจะปวดเกร็งตื้อที่ขมับปวดร้าวไปที่ต้นคอแล้วหากใครที่เป็นไมเกรนอยู่แล้วจะยิ่งมีอาการปวดมากขึ้นกว่าเดิม
วิธีแก้ แม่ท้องควรจัดเวลานอนให้เพียงพอ แบ่งเวลานอนผักผ่อนช่วงกลางวัน และนอนหนุนหมอนสูง การอยู่ในห้องที่เย็นสบายอากาศถ่ายเทจะช่วยทำให้นอนหลับได้ดี หากปวดศีรษะมากสามารถกินยาพาราเซตามอลได้ (แต่ไม่ควรกินมากเกินไป ให้ใช้วิธีผ่อนคลายอื่นๆ ก่อนใช้ยา ดีที่สุดค่ะ)
2. ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหลัง
เมื่อท้องใหญ่ขึ้นแม่ท้องจะปวดเมื่อยตัวแขนขากล้ามเนื้อต่างๆเพราะร่างกายต้องแบกรับน้ำหนักมากขึ้นเพียงแค่ยืนเฉยๆร่างกายก็จะโน้มไปข้างหน้าเพราะศูนย์ถ่วงเสียกล้ามเนื้อหลังจะรับบทหนักในการช่วงดึงงตัวเพื่อไม่ให้ล้มส่วนเวลานอนน้ำหนักของมดลูกก็จะมากดทับ
วิธีแก้ เลือกสวมใส่รองเท้าส้นเตี้ยที่ใส่สบาย เพื่อรองรับน้ำหนักและสรีระ ส่วนตอนนอนให้นอนตะแคงข้าง และใช้หมอนหนุนท้อง หรือกอดหมอนข้าง จะช่วยให้นอนหลับสบายขึ้น
3. ปวดหน้าอก ลิ้นปี่
อาการปวดที่หน้าอกหรือลิ้นปี่หรือปวดจุกเสียดหลังจากกินอาหารอิ่มใหม่ๆเนื่องมาจากลำไส้ถูกดันขึ้นมาจากมดลูกอาหารต่างๆที่กินเข้าไปจะมาจุกรวมกันที่ช่องท้องทำให้แม่ท้องรู้สึกอึดอัดนอกจากนี้ผลจากฮอร์โมนทำให้การบีบตัวของทางเดินอาหารช้าลงปกติเวลากินอาหารเสร็จจะค้างอยู่ในกระเพาะเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้นแต่แม่ท้องอาหารจะค้างอยู่ในกระเพาะนานกว่า 3 – 4 ชั่วโมงแล้วจึงผ่านท่ออาหารไหลลงสู่ลำไส้บางทีอาหารยังย่อยไม่หมดเมื่อกินอาหารเข้าไปอีกก็จะทำให้จุกแน่นส่วนอาหารที่ค้างอยู่นานกรดในกระเพาะก็จะยิ่งกัดทั้งกระเพาะและอาหารไปพร้อมกัน
วิธีแก้ กินอาหารที่ย่อยง่ายและกินต่อมื้อน้อยๆ แบ่งย่อยไว้กินหลายมื้อต่อวัน
4. ปวดเต้านม
ปวดเจ็บบริเวณเต้านมคัดตึงคล้ายช่วงมีประจำเดือนเกิดจากร่างกายมีการสะสมและเริ่มสร้างต่อมน้ำนม เมื่อเข้าสู่ช่วงไตรมาสที่ 2 อาการปวดจะเบาลงค่ะ
วิธีแก้ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเต้านมเบาๆ
5. ปวดท้องน้อย
มีอาการปวดหน่วงบริเวณท้องน้อยบางคนอาจจะปวดตึงบริเวณอวัยวะเพศหรือลามไปบริเวณขาหนีบคล้ายช่วงปวดประจำเดือนสาเหตุมาจากมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นจึงมีเลือดมาเลี้ยงบริเวณนั้นมากขึ้นทำให้มดลูกบวมซึ่งมักจะเกิดในสัปดาห์ที่ 36 เพราะมดลูกมีการเคลื่อนต่ำลง
วิธีแก้ นอนพัก หรือนั่งพัก สังเกตว่าอาการเบาลงก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่หากมีอาการปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆ อาจเป็นสัญญาณว่าแม่ท้องปวดท้องเตือนใกล้คลอด ควรรีบไปพบแพทย์อย่านิ่งนอนใจค่ะ
6. ปวดเมื่อยตัวช่วงใกล้คลอด
เกิดจากอาการบวมน้ำเพราะร่างกายมีการสะสมน้ำไว้ตามเซลล์ต่างๆ เพื่อช่วยประคองเส้นเลือดให้มีความดันคงที่ขณะคลอดเพราะตอนคลอดแม่ท้องจะเสียเลือดมากเสียน้ำคร่ำความดันโลหิตก็จะตกแต่อาการบวมน้ำนี้หลังคลอดจะถูกขับออกมาในรูปปัสสาวะ
วิธีแก้ จุ่มมือในน้ำอุ่น 5-10 นาที ยกเท้าให้สูงจะลดอาการบวมได้ เหยียดตัว หรือให้สามีช่วยนวด แต่ห้ามกินยาแก้ปวด แก้อักเสบเพราะยาบางชนิดเป็นอันตรายแก่เด็กในท้องค่ะ
7. ปวดขา
เกิดจากน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นยิ่งแม่ท้องที่มีครรภ์ใหญ่จะปวดขาเวลาเดินปวดตามกล้ามเนื้อและเส้นเลือดเพราะมดลูกใหญ่ขึ้นไปขวางทางเดินของเส้นเลือดเลือดไหวเวียนไม่สะดวกเกิดเป็นเส้นเลือดดำโป่งพอง
วิธีแก้ เวลาแม่นั่งหรือนอนให้ยกขาสูงกว่าหัวใจเพื่อช่วยการไหลเวียนของเลือด
8. ปวดริดสีดวง
เกิดจากแม่ท้องท้องผูกแรงดันบริเวณทวารหนักจะมากขึ้นเส้นเลือดโป่งพองมากขึ้นถ้าเส้นริดสีดวงแตกเลือดไหลอาจจะเกิดการตกเลือดได้
วิธีแก้ กินผักผลไม้เยอะๆ ดื่มน้ำวันละ 2 ลิตร และทุกๆ เช้าหมั่นเข้าห้องน้ำ
9. ปวดจะคลอด
ปวดถี่ขึ้นเรื่อยๆบีบตัวทุกครึ่งชั่วโมงขยับไปทุก 5-10 นาทีถ้าปวดทุก 5 นาทีจะเป็นเจ็บท้องคลอดและอาจจะมีน้ำเดินไหลออกมาหรือมีมูกเลือดออกมาจากปากมดลูกแสดงว่าปากมดลูกเปิดแล้วต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที
10. ปวดตามร่างกายไม่มีสาเหตุ
อาการปวดโน้นปวดนี่ไม่มีสาเหตุเป็นอาการปวดที่ไม่เป็นอันตรายเจ็บปวดไม่นานก็จะหายไปเองเช่นตื่นมาแล้วปวดแขนปวดขาหรือปวดไหล่ซึ่งอาจเกิดจากท่านอนการเดินการยืนผิดท่าเท่านั้นค่ะ
- KolaxCream: ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเส้นเลือดขอด - กรกฎาคม 31, 2024
- Melavita: แคปซูลปกป้องผิว - กรกฎาคม 31, 2024
- Hanoxol: แคปซูลสำหรับโรคริดสีดวงทวาร - กรกฎาคม 31, 2024