รสชาติแรกที่คนเราติดง่ายที่สุด คือ รสหวาน แต่รสหวานที่ได้จากน้ำตาลทรายมักทำให้อ้วนง่าย เราจึงสรรหาความหวานที่ดีต่อสุขภาพจากสมุนไพรหญ้าหวานทดแทน ทราบไหมชาวปารากวัยใช้ใบหญ้าหวานผสมชาดื่มมานานกว่า 1500 ปีแล้ว ส่วนญี่ปุ่นก็ใช้มา 17 ปี สำหรับบ้านเราเพิ่งใช้หญ้าหวานแทนน้ำตาลได้จริงๆ เมื่อไม่นานนี้เองค่ะ  

หญ้าหวาน สมุนไพรทดแทนรสหวาน 

หญ้าหวานใช้ผลิตน้ำอัดลม ชาเขียว ขนมเบเกอรี่ แยม เยลลี่ ไอศกรีม ลูกอม หมากฝรั่ง ซอสปรุงรส ยาสีฟัน เพราะมีสารสกัดให้ความหวานจากธรรมชาติ คือ สารสตีวิโอไซด์ที่ให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลทราย 150 – 300 เท่า ทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส ไม่สลายตัว ไม่เปลี่ยนสภาพจากความร้อน ปราศจากแคลอรี่ ไม่มีผลกระทบต่อปริมาณน้ำตาล ร่างกายขับออกมาได้ทันที ไม่มีการสะสม เหมาะกับผู้รักสุขภาพ ต้องการควบคุมน้ำหนัก ผู้ที่เป็นเบาหวาน ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงตับอ่อน ลดไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน สมานแผลให้หายไวขึ้น ช่วยให้เลือดไปเลี้ยงสมองมากขึ้น ปัจจุบันได้ถูกแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ใบอบแห้ง, ใบแห้งบดชงสำเร็จรูป (ชาหญ้าหวาน), ใบสด, ใบแห้งบดใช้แทนน้ำตาล (หญ้าหวานผง) และสารสกัดจากใบแห้งด้วยน้ำ ซึ่งมักชงดื่มหรือผสมกับเครื่องดื่ม

วิธีชงชาหญ้าหวาน

แบบที่ 1 ตั้งน้ำให้เดือด โดยไม่ให้เดือดจัด หรือใช้น้ำร้อนจากกระติกน้ำร้อน 100 องศาเซลเซียส ใส่ชาหญ้าหวาน 1-2 ใบ เทน้ำร้อนลงไป แช่ทิ้งไว้ 2-3 นาที แล้วรินดื่ม สามารถยืดหยุ่นเวลาได้ ยิ่งแช่น้ำทิ้งไว้นาน รสชาติของน้ำชาจะยิ่งหวาน

แบบที่ 2 ชงใส่เครื่องดื่มที่ชอบ เช่น กาแฟ ชา น้ำสมุนไพรอื่นๆ แล้วใส่ใบหญ้าหวาน 1-2 ใบลงในแก้วเครื่องดื่ม แช่ทิ้งไว้ 1-2 นาที จากนั้นกรองใบหญ้าหวานออกแล้วดื่มได้ทันที

ข้อแนะนำ มีรายงานการแพทย์ของอิเคดะตั้งแต่ ปี 1982 ได้รับรองในเอกสารทางการแพทย์ว่าไม่พบแนวโน้มความเป็นพิษในหญ้าหวาน จึงใช้ได้แต่ก็ควรใช้ในปริมาณเหมาะสม อาจารย์วีรสิงห์ เมืองมั่น จาก รพ.รามาธิบดี ได้ทำการวิจัยหญ้าหวานว่าควรกินปริมาณเท่าใดจึงจะปลอดภัย คำตอบ คือ 1-2 ใบต่อเครื่องดื่ม 1 ถ้วย