พอเอ่ยคำว่านิทาน เชื่อไหมเด็กมักตื่นเต้น อยากให้พ่อแม่เล่าให้ฟัง และพร้อมจะยอมทำตามคำสั่งและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นอยากให้ลูกเป็นเด็กดี มีพฤติกรรมที่ดีที่น่าชื่นชม อย่าได้มองข้ามการฝึกให้ลูกเป็นเด็กที่รักการอ่าน เริ่มต้นจากกิจกรรมการอ่านนิทาน นะคะ

ข้อดีของนิทาน

จากการสำรวจเด็กในอังกฤษ พบว่าการฟังนิทานเป็นกิจกรรมโปรดที่แซงหน้ากิจกรรมบันเทิงอื่น เช่น ดูทีวี เล่นเกม เพราะช่วยให้เด็กหลับสนิทอย่างเป็นสุข รู้สึกอุ่นใจ เกิดความรู้สึกคุ้นเคยที่จะทำสิ่งดีงาม และถูกต้องจากเนื้อหาในนิทาน เกิดความรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของนิทานที่จะต้องทำสิ่งนั้น ทั้งยังวิจัยพบว่าเด็กในช่วงวัย 3-4 ขวบ เป็นช่วงที่อยากให้พ่อแม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังมากที่สุด ริชาร์ด วูฟสัน นักจิตวิทยาเด็กระบุเด็กวัยนี้บอกช่วงเวลาที่พ่อแม่อ่านนิทานให้ฟังเป็นช่วงเวลาที่เด็กชอบมาก ดังนั้นมาส่งเสริมแนวทางการอ่านด้วยวิธีเหล่านี้กันค่ะ

แนวทางส่งเสริมการอ่านให้ลูกรัก

1. ทำความเข้าใจในเนื้อหาของนิทาน อ่าน จดจำ ทำความเข้าใจในเนื้อหาที่จะเล่าให้ขึ้นใจ จับประเด็นให้ได้ว่านิทานเรื่องที่จะเล่าให้ลูกฟังนี้มีแง่คิดดีๆ หรือประโยชน์อะไรบ้าง แล้วเล่าให้ลูกฟังวันละ 15-20 นาที

2. ไม่ต้องอ่านเรื่องตามนิทานก็ได้ ถ้าเห็นว่าลูกกำลังสนใจ ลองเพิ่มเนื้อเรื่องเข้าไป หรือเพิ่มตัวละคร หรือปรับให้สอดความคล้องกับความสนใจของลูก หรืออยากให้ลูกมีพฤติกรรมแอบสอดแทรกใส่ไปได้เลยค่ะ

3. รู้จักเน้นเสียงหรือเว้นจังหวะให้ดูน่าสนใจ เช่น ใช้เสียงหนัก เสียงเบา เสียงกระซิบ พูดเร็วๆ หรือพูดช้าๆยานคางเสริมสักนิด อย่าใช้น้ำเสียงราบเรียบธรรมดา อย่าท่องอ่านแบบอาขยาน แต่เน้นเสียงหนักเบาน่าสนใจด้วยค่ะ

4. เปิดนิทานอ่านตรงๆก็ได้ ถ้าจำเรื่องที่จะเล่าให้ลูกฟังไม่ได้ หรือไม่มั่นใจว่าจะเล่าได้ตรงตามเรื่องให้เปิดอ่านให้ลูกฟัง แต่ต้องเข้าใจเรื่องในเบื้องต้นก่อน แล้วเปิดหน้าที่มีภาพให้ตรงกับเรื่องที่จะเล่าเท่านั้นเอง

5. ชวนลูกให้เลือกนิทานมาอ่านให้พ่อแม่ฟังบ้าง อาจให้ลูกแต่งนิทานขึ้นมาเล่าสดๆเลยก็ได้ถ้าลูกอยากจะคิดขึ้นมาใหม่ อยากจะให้เรื่องเป็นแบบไหน ขึ้นต้นอย่างไร จบอย่างไร ให้ลูกคิดสร้างสรรค์หรือจินตนาการได้เลย ซึ่งแนวทางเหล่านี้จะช่วยฝึกสมองให้ลูกเป็นนักคิด นักเขียน นักเล่าเรื่องที่ดีไปพร้อมกันได้