เปลี่ยนเด็ก ‘กลัว’ เป็นเด็ก ‘กล้า’

5/5 - (1 vote)

เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้ลูกเด็กขี้กลัวเกินเหตุ แล้วก็คงไม่ได้อยากให้ลูกเป็นเด็กกล้าเกินการ เชื่อว่าคงอยากให้ลูกอยู่ในระดับพอดี ไม่มากไม่น้อย แล้วถ้าเห็นว่าลูกเป็นเด็กขี้กลัวเกินเหตุ คุณแม่ก็ต้องหาทางดูแลแก้ไขกันให้ดีด้วยนะคะ 

รู้ทันสาเหตุเด็กขี้กลัว

เด็กขี้กลัวมักเกิดได้หลายสาเหตุ ทำให้ไม่อยากเข้าสังคม เช่น เวลาเจอคนมากๆ ก็ประหม่า ตื่นเต้น อยากวิ่งหนี หรือบางทีก็รู้สึกกังวลเรื่องรูปลักษณ์ตนเอง เช่น ฟันหลอ ตัวดำ ตัวสูงหรืออ้วนมากเกินไป ทำให้เด็กขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ไว้วางใจในสังคม หรือบางทีเด็กก็อาจเกิดความรู้สึกขึ้นมาว่าไม่มีใครรัก ไม่มีใครยกย่องเขา ก็ทำให้เป็นเด็กขี้กลัวได้เหมือนกันค่ะ

5 อย่า เพื่อดูแลลูกขี้กลัว 

1 อย่าใช้วิธีคิด วิธีปฏิบัติที่ทำให้ลูกขาดความมั่นใจ เช่น อย่าป้อนข้าว อาบน้ำให้ทั้งที่ลูกก็ทำเองได้ 

2 อย่าตัดสินใจให้ลูกทุกเรื่อง 

3 อย่าคาดหวังว่าลูกจะทำได้ทุกอย่าง 

4 อย่าต่อว่าลูกต่อหน้าคนอื่น 

5 อย่าลุ้นให้ลูกเข้าหาคนอื่น เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกเป็นเป้าสายตาได้

 

6 ทำ เพื่อป้องกันลูกขี้กลัว

1 สนใจความต้องการของลูก

ช่วงที่ลูกยังเล็กยังสื่อสารไม่รู้เรื่อง แต่รู้จักแสดงท่าทางให้รับรู้ได้ เมื่อลูกแสดงท่าทางเรียกร้องความสนใจจากพ่อแม่ เช่น ดึงกระโปรงหรือชายเสื้อพ่อแม่ต่อหน้าคนมากๆ อย่าได้ดุว่า ตำหนิ หรือแสดงความรำคาญลูกออกมา แต่ควรหันมาพูดคุยกับลูก เล่นกับลูก หรือสนใจลูกบ้างนะคะ

2 พาลูกออกสังคม 

เมื่อลูกกลัวคนแปลกหน้า ควรเข้ามาปลอบโยนลูกให้หายกลัว แล้วหมั่นพาลูกไปพบเจอคนอื่นให้ลูกคุ้นเคยกับคนแปลกหน้าบ่อยๆ เช่น อุ้มลูกไปจ่ายตลาด พาไปเล่นที่สนามเด็กเล่น ถึงแม้ลูกยังไม่พร้อมที่จะเล่นกับเด็กอื่น แต่ลูกก็สามารถดูคนอื่นเล่นได้ แล้วอีกหน่อยลูกก็พร้อมที่จะเล่นร่วมกับเด็กอื่นได้เองค่ะ 

ถามไถ่ความรู้สึก

กระตุ้นให้ลูกพูดระบายความรู้สึก ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทั้งในบ้าน หรือนอกบ้าน เรื่องที่ลูกได้พบเห็นที่โรงเรียน หรือข่าวสารต่างๆ เพื่อฝึกการพูด การแสดงความคิดเห็นให้ลูก ซึ่งจะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นใจมากขึ้น

4 ให้กำลังใจลูกเสมอ 

ให้ลูกทำความรู้จักสานสัมพันธ์กับคนอื่นแบบค่อยเป็นค่อยไปเอง พ่อแม่ให้กำลังใจอยู่ห่างๆ อย่าเร่งให้ลูกออกงานสังคม เช่น ส่งไปประกวดร้องเพลง แข่งโต้วาที เพราะลูกจะตื่นเต้น กลัวการออกไปสู่สังคมมากขึ้นค่ะ   

5 แสดงความชื่นชม 

ชมลูกทั้งต่อหน้าและลับหลัง เช่น น้องกายพูดเก่งขึ้นค่ะ ไม่ขี้อายเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หมั่นชมลูกด้วยความรักบ่อยๆ เมื่อลูกรับรู้ว่าตัวเองเป็นที่รักของพ่อแม่ ลูกก็จะอยากปรับตัวให้ดีขึ้น พยายามพูดคุยกับใครมากขึ้น

6 พาลูกไปร่วมกิจกรรม 

หมั่นพาลูกไปร่วมกิจกรรมกับเด็กอื่นบ้าง อาจเป็นลูกของเพื่อน พี่ป้าน้าอา หรือชวนเพื่อนร่วมชั้นลูกมาเที่ยวบ้านในงานวันเกิดของลูก เพื่อให้ลูกรู้จักทำความคุ้นเคยกับเพื่อนได้มากขึ้น จนเป็นเพื่อนกับคนอื่นได้มากขึ้น

ฐิติพันธุ์ชมสว่างเป็นผู้ฝึกสอน CrossFit อายุ 40 ปีจากประเทศจีนฮ่องกง เธอจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อ 15 ปีก่อน เธอใช้เวลาส่วนใหญ่ที่ศูนย์ออกกำลังกายเพื่อช่วยให้ผู้อื่นมีสุขภาพดีและมีรูปร่าง เธอแต่งงานแล้วและมีลูกชายคนแรกและใช้เวลาว่างของเธอในการฝึกซ้อมมาราธอน
ฐิติพรรณ จอมสว่าง